ใช้เวลาในการทำทั้งหมด 1.30 – 2 ชั่วโมง ตามกระบวนการดังนี้:

• กรอกประวัติแบบฟอร์ม

  กรอกประวัติแบบฟอร์ม ถ่ายรูปก่อนทำ หน้าตรง ซ้าย ขวา เพื่อเก็บในแฟ้มประวัติลูกค้า

• เลือกสีที่ต้องการ

  ในกระบวนการนี้เราจะมาคุยกันเรื่องสีที่ลูกค้าต้องการ อธิบายทำความเข้าใจในการแก้ปัญหาสีปากของแต่ละคนเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงกัน ผสมผสานให้ได้สีและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเหมาะกับลูกค้าที่สุด

• ทายาชาครีมเฉพาะที่

  เราจะทำความสะอาดผิวด้วย วอเตอร์คลีนซิ่งอย่างดี และสครับผิวปากด้วยผลิตภัณฑ์ออแกนิค เพื่อเป็นการเตรียมผิวก่ินทำ และทายาชาที่ปากประมาณ 25 นาที

• ลงมือทำการสักปาก

  ลูกค้าจะได้เข้าทำในห้องส่วนตัว ที่มีเตียงสักออกแบบให้โอบล้อมสรีระร่างกายเพื่อความสบายระหว่างได้รับบริการ เพราะต้องนอนบนเตียงนานประมาณ 45-90 นาที เราจึงใส่ใจในจุดๆนี้ด้วย ขอบปากจะใช้เวลาในการทำน้อยที่สุด ส่วนการสักทั้งริมฝีปากจะใช้เวลานานกว่าค่ะ ระหว่างการสักเรามียาชาเฉพาะที่ที่ปลอดภัยใช้ระหว่างการสักเช่นกันเพื่อผ่อนคลายความกังวลให้กับลูกค้าของเรา

• ถ่ายรูปหลังทำ

  ถ่ายรูปหลังทำเสร็จเพื่อเปรียบเทียบก่อน หลังการสักปาก และเก็บไว้ในประวัติลุกค้า

• รีมบำรุงหลังทำปาก

  เราจะให้ ครีมบำรุงหลังสักปาก กับลูกค้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม พร้อมอธิบายการดูแลหลังสัก

อาจจมีรู้สึกบ้าง บางช่วง แต่เรามียาชาแบบทาใส่ให้ตลอดระหว่างการทำ อันนี้ขึ้นอยู่กับขีดความอดทนรับความรู้สึกเจ็บของแต่ละคนแตกต่างกัน ถ้าทางการแพทย์ เราจะใช้pain score วัดจาก1-10 คือจากน้อยไปมาก ส่วนใหญ่จะอยู่ราวๆ2-3หรือต่ำกว่า5 บางคนไม่รู้สึกเลย หลับไประหว่างทำก็มี ไม่ต้องห่วงนะคะทางร้านได้มีการใช้ยาแบบทาเพื่อระงับความรู้สึกเฉพาะที่ให้ลูกค้าทั้งก่อนและระหว่างทำอยู่แล้ว ทางร้านไม่ใช้ยาชาที่มีความเข้มข้นสูงค่ะ เพราะว่าอันตรายเกินไป อาจเกิดอาการแพ้หรืออาการไม่พึงประสงค์ได้ เราเลือกใช้ของคุณภาพสูงนำเข้าจากอเมริกาที่เป็นที่ยอมรับทางด้าน FDA ของอเมกา ยอมต้นทุนสูงกว่า แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดกับลูกค้าของเรา ส่วนใหญ่แล้วก็จะบอกว่ารู้สึกเคืองๆรำคาญมากกว่าที่จะเจ็บค่ะ

• ถ้าคุณมีประวัติเคยเป็นเริมที่ริมฝีปาก หรือแม้แต่เคยเป็นแค่ครั้งเดียวในชีวิตก็ตาม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรใกล้บ้าน เพื่อรับประทานยาป้องกันโรคเริม แจ้งว่าตอนนี้ไม่มีอาการแต่ต้องการป้องกันไว้ ยาก็จะมี มาทานช่วงก่อนและหลังการสักปากส่วนใหญ่แพทย์หรือเภสัชกรจะสั่งให้เป็นเวลา 5-7 วันติดต่อกัน และควรทานอย่างน้อย 2 วันก่อนทำการสักปากและที่เหลือวันที่สักปากและหลังจากสักปาก รวมทั้งหมดเป็น 5-7 วันค่ะ
• ข้อควรระวังข้างต้นนี้ไม่ได้การันตีว่าจะไม่เป็นเริมก่อน –ขณะ และหลังทำการสักปากเพราะโรคนี้เป็นที่รู้ดีอยู่แล้วว่ามันซ่อนอยู่ในปมประสาทคนที่เป็น อาจจะได้ผลหรือไม่ได้ผลก็ได้ในการป้องกัน ถ้าการป้องกันไม่ได้ผล ตัวโรคอาจกำเริบขึ้นได้ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ติดเชื้อหรือให้สีจางได้
• ถ้าฉีด ฟิลเลอร์ที่ปากมา แนะนำให้รออย่างน้อย6เดือน
• 1 สัปดาห์ก่อนมาทำการสักปาก ห้ามถอนขน แวกซ์ โกน บริเวณริมฝีปาก
• 2 สัปดาห์ก่อนทำและหลังทำ งดการทำเลเซอร์บริเวณรอบๆริมฝีปาก
• กรุณารบกวนจองคิวทำการนัดวันเวลากับทางร้านล่วงหน้าเพื่อความสะดวกสบายและไม่เป็นการรอคิวที่ร้านนาน รับเฉพาะเคสนัดเท่านั้น

สามารถทำได้ค่ะแต่ต้องห่างจากการทำเลเซอร์มาแล้ว 2 เดือนค่ะ เพราะผิวบริเวณที่เลเซอร์จะบอบบางมากหลังทำเลเซอร์ ต้องรอให้แผลเลเซอร์และผิวสมานตัวดีก่อนถึงจะมาทำกับทางร้านเราได้

• หลังจากการสักปากชมพูสิ่งเกิดขึ้นเป็นปกติคือ สีอาจจะดูเข้มมากกว่าที่เราเลือกไว้ ดื่มน้ำผ่านหลอดดีที่สุดเพื่อป้องการปากกระทบกับภาชนะ
• เราจะให้เอกสารการดูแลหลังการสักปากและ aftercare ไปทาเป็นเวลา 5-7วันค่ะ
• 1-2ชั่วโมงแรก มีการบวมของริมฝีปาก บางคนไม่บวมเลย หรือบางคนอาจบวมนานเป็นวัน​ บวมมากน้อยขึ้นอยู่กับผิวแต่ละบุคคล สามารถใช้ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและแสบได้ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนมาใช้ลิปมันธรรมดาได้เลยค่ะ
• 2-4วัน หลังจากสักปากชมพู เซลล์ผิวหนังชั้นนอก น้ำเหลือง สีที่อยู่ชั้นนอกของริมฝีปากจะเริ่มหลุดลอกเป็นสะเก็ดออกมาคล้ายกับเวลาเราปากแห้ง ปากแตกเวลาอากาศเย็นหรือขาดน้ำ ช่วงเวลาสำคัญนี้ห้ามแคะ แกะ เกาเป็นอันขาดเพราะอาจจะมีบางบริเวณที่ยังไม่ทันได้หายดีค่ะ
• เมื่อครบ 1 สัปดาห์หรืออาจจะเร็วกว่านี้ก็จะลอกหมดแล้ว ช่วงนี้อาจจะรู้สึกว่าริมฝีปากแลดูบอบบางกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการสักจะหายดีแล้วแต่ทำไมสียังดูไม่ชัด หรือไม่เห็นสีเลย บางคนอาจดูคล้ำๆบางส่วนอยู่ สีไม่เหมือนที่เลือกสีไว้ ต้องให้เวลาเขาในการโชว์สีเรื่อยๆซึ่งเวลาอาจจะนานถึง 8สัปดาห์ค่ะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงนัดมาเติมสีครั้งที่ 2 หลังการสักปากชมพูไปแล้วอย่างน้อยๆ4-6 สัปดาห์​ และทางเราแนะนำให้กลับมาเติมสีเพิ่มค่ะ
• ปากของเรามีการถูกน้ำตลอดเวลา จากการทานอาหาร แปรงฟัน และมีเลือดมาหล่อเลี้ยงมากกว่าบริเวณคิ้ว จึงทำให้ลอกเร็วและหายเร็ว การติดของสีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าเราบวมหรือเลือดออกหระหว่างทำมากน้อยแค่ไหนเช่นกันค่ะ
• สีจะเข้มมากหลังทำและเข้มขึ้นทุกๆวันเป็นเวลา 5-7 วันหลังจากนั้นจะจางมากอาจจะไม่เห็นสีเลยหรือเห็นนิดเดียวแต่เขาจะค่อยๆโชว์สีขึ้นมาเรื่อยๆค่ะ

ปกติแล้วในการทำครั้งแรกอาจจะไม่สมบูรณ์แบบเสมอไป ดังนั้นเราจึงแนะนำให้มาเติมสีอีกครั้งหลังจากที่ทำครั้งแรกไปแล้ว 4-8สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการหายของแต่ละบุคคล บางบริเวณอาจติดสีมากน้อยต่างกันเพราะระหว่างทำมีการบวมมีเลือดซึมทำให้การติดของสีไม่เท่ากันได้ เราสามารถเติมสีเพิ่มเติมได้ในนัดครั้งนี้ค่ะ ปากที่สักไปจะค่อยเห็นสีที่แท้จริงใต้ผิวเมื่อเวลานานขึ้นนานขึ้น แนะนำว่าทุกๆปีหรือ 2 ปีสามารถมาทำการสักปากชมพูได้อีกเพื่อเป็นการรักษาสีให้ดูสวยอยู่ตลอดเวลาค่ะ

ผู้ชายก็สามารถทำได้ค่ะ เพราะส่วนใหญ่จะมีปัญหาเกี่ยวกับริมฝีปากที่คล้ำมากและอยากให้มีสีอ่อนธรรมชาติเหมือนคนอื่นๆปรึกษาเราได้เลยค่ะ เพราะเราทำการผสมสีขึ้นเฉพาะแต่ละบุคคลเท่านั้นค่ะ ฉะนั้นทำได้ทุกเพศทุกวัยอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปค่ะ ผู้หญิงอย่างเราก็อย่าหยุดสวยนะคะ